ว่าในวันที่ 21 ธันวาคม 2555 นี้บริษัทจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้ง
แรก หลังจากได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจเครือข่ายจากสำนักงานคณะ
กรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2555 ที่ผ่านมา
ด้วยแผนการตลาดแบบไบนารี่ไฮบริดที่สนองการทำงานของนักธุรกิจอิสระ
ได้อย่างลงตัว โดยมีสินค้าที่ผลิตไว้รองรับแล้วกว่า 800 รายการ “เรา
มีสินค้ากว่า 800 รายการที่ผลิตไว้รอเรียบร้อยแล้วซึ่งได้จัดเป็นเหมือน
ช็อปปิ้งมอลล์โชว์ผลิตภัณฑ์ทุกตัวไว้ครบหมด เพราะเราเป็นผู้ผลิตเองจึง
มีความพร้อมหลังจากก่อนหน้านี้ผมผลิตสินค้าต่างๆเป็นสินค้าเฮ้าส์แบรนด์
ส่งให้กับห้างดังระดับโลกในยุโรปและอเมริกามานาน ก็เลยหันกลับมามอง
เรื่องโครงข่ายธุรกิจเครือข่าย MIR ที่จะเป็นกลไกลสำคัญในการขยาย
ธุรกิจไทยออกสู่นานาชาติได้” ภก.ดร.พิศาลกล่าว และว่า
จากประสบการณ์กว่า 30 ปี ที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการตลาดทั้งค้าปลีก
ขนาดใหญ่ของต่างประเทศและเครือข่ายขายตรงหลายรายในประเทศไทย
ในฐานะผู้ผลิต ได้มองเห็นโอกาสการขยายธุรกิจผ่านระบบขายตรงเอ็ม
แอลเอ็มภายใต้โครงข่ายเครือข่ายผู้บริโภคที่มีอย่างไม่จำกัดมาโดยตลอด
ทำให้เกิดแนวคิดเปิดธุรกิจขายตรงใหม่ “เอ็มไออาร์เวิลด์วายด์” ขึ้นมา
รองรับการกระจายสินค้าออกสู่ผู้บริโภคทั่วโลก โดยเชื่อว่าด้วยศักยภาพ
ของแผนการตลาดที่ผสมผสานค้าปลีกกับไบนารี่นี้จะตอบโจทย์และนำ
ธุรกิจไทยไปสร้างรายได้จากนอกประเทศแล้วนำกลับเข้าประเทศไทยใน
อนาคตอย่างได้ผล
สำหรับแผนการตลาดไบนารี่ ไฮบริดนั้น ภก.ดร.พิศาล กล่าวย้ำว่า เป็น
แผนการตลาดแบบใหม่ที่จะสร้างความมั่นคงให้กับผู้ร่วมธุรกิจได้อย่างแข็ง
แรงตั้งแต่เริ่มต้นและมีรายได้สูงในระยะกลางและมีความมั่นคงในระยะที่
ขึ้นสู่ตำแหน่งระดับสูงขององค์กร โดยมีผลิตภัณฑ์รองรับการขยายเครือ
ข่ายผู้บริโภคทั้งเครื่องสำอาง อาหารสุขภาพ สินค้าบริโภคและอุปโภค
ครบครันกว่า 800 รายการ ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงปลายปีซึ่งเป็นช่วง
จัดโปรโมชั่นของห้างสรรพสินค้าต่างๆ บริษัทก็สามารถผลิตสินค้ารองรับ
การสั่งซื้อได้มากถึง 1,000 กว่ารายการมาแล้ว
“เราทำแผนแบบเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคทุกคนเริ่มต้นลงทุนด้วยตัวเอง
เหมือนค้าปลีกทั่วไปด้วยราคาที่ถูกเพราะเราเป็นผู้ผลิตเอง แล้วเมื่อขยับ
ตำแหน่งตามแผนไบนารี่ไฮบริดขึ้นไปตามลำดับก็ที่จะส่งเสริมให้นักธุรกิจ
อิสระสามารถสร้างรายได้และสร้างเครือข่ายสมาชิกบนฐานค้าปลีกเดิมได้
อย่างมั่นคงและมีรายได้ที่ดีโดยแผนสามารถรองรับการจ่ายได้มากสุดถึง
38 ล้านบาทต่อเดือน และเมื่อก้าวขึ้นสู่ระดับโครงสร้างแผนธุรกิจสูงสุดก็
จะมีรายได้มั่นคงเหมือนการทำธุรกิจค้าปลีกอีกครั้ง” ภก.ดร.พิศาลกล่าว
ประธานเอ็มไออาร์เวิลด์วายด์ กล่าวต่อว่าเมื่อ 9 ปีก่อนได้ไปเทคโอเว่อร์
บริษัทขายตรงแห่งหนึ่งแล้วเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัทไออาร์บิวติน่า จำกัด
แต่ด้วยแผนการตลาดที่ยังไม่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มนักธุรกิจรุ่น
ใหม่และตลาดต่างประเทศ จึงตัดสินใจเปิดบริษัทขายตรงใหม่ขึ้นอีก 1
บริษัทชื่อ บริษัทเอ็มไออาร์เวิลด์วายด์ จำกัด แห่งนี้เพื่อดำเนินธุรกิจด้วย
แผนการตลาดใหม่ ที่ได้มาตรฐานเพื่อจะก้าวไปข้างหน้าสู่เวทีตลาดโลก
และรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งมีประชากรเกือบ 600
ล้านคน
โดยคาดหวังการดำเนินธุรกิจเบื้องต้นภายในสิ้นปีนี้จะมียอดขายจาก
สมาชิกผู้บริโภคสนใจเข้าร่วมประมาณ 50,000 รหัส ราว 50 ล้านบาท
ก่อน แต่ภายในสิ้นปี 2556 จะวัดผลความสำเร็จในระยะเริ่มต้นได้ด้วย
จำนวนนักธุรกิจอิสระที่ทำงานจริงไม่ต่ำกว่า 30,000 คน หลังจากนั้นจะ
เริ่มขยายเครือข่ายธุรกิจเอ็มไออาร์เวิลด์วายด์ไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านใน
กลุ่มอาเซียนเช่น ลาว พม่า เวียดนาม อินโดนีเซีย และด้วยประสบการณ์
การส่งออกสินค้าเฮ้าส์แบรนด์มานานจะสามารถ
ประธานเอ็มไออาร์เวิลด์วายด์ กล่าวถึงงบประมาณเปิดบริษัทใหม่เบื้องต้น
3 ล้านบาท ไม่รวมที่ตั้งบริษัท เนื่องจากสินค้าเป็นสินค้าที่ผลิตมาจาก
บริษัท การ์กัวร์ แลป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทของเขาเอง โดยเตรียมสินค้า
หลักที่จะทำตลาดในธุรกิจเครือข่ายกลุ่มแรกเป็น น้ำมันรำข้าว-ปู่จิงตัน
กับสินค้าเดิมของบริษัท ไออาร์ บริติน่า อีกกว่า 40 รายการ และอนาคต
จะนำผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรประเภทปุ๋ย และสมุนไพรมาเพิ่มอีกด้วย
ทั้งนี้จากข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า บริษัท
เอ็มไออาร์เวิลด์วายด์ จำกัด ทะเบียนเลขที่ 0135555001664 วันที่จด
ทะเบียน 27 มกราคม 2555 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่
400/499 หมู่ที่ 8 ถนนพหลโยธิน ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
12130 ส่วนการจดทะเบียนขอใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้ม
ครองผู้บริโภค หรือ สคบ. นั้นได้ทำการยื่นในเดือนพฤษภาคมและได้รับ
อนุญาตในวันที่ 1 มิถุนายน 2555 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สนใจต้องการมีรายได้กับธุรกิจ เอ็มไออาร์
โทร 0865836392
|